dokmali

During 1975, also filled with social classes and economic pressures on young women, 20 Jane Austen who like to writing. her get pressured from family, especially mother, to marry to Wisley who do not chatter , while Jane has found a friend Her brother Tom Lefroy. grandson of a judge in London. Which he took to support Tom. Because Tom's mother chose to marry his father,poor man with many siblings. Tom heavy to rely on Uncle. he give ,Tom money to live and send some to sisters,brothers.Jane and Tom apart an open mind by the writing,thinking, and Tom is a brilliant law student. artistic mind. But when both decision to select a "love" and the couple's will to live together. until finally chose to let Tom go alone. Because Tom is responsible for the children at home, which at first Jane did not know about this before. And to think that if Tom. Lives of both are not happy at all.Later, Tom became an important judge in England and Jane became a very famous writer.This is a biography from reality. Assumption of the women named Jane Austen, of the immortal novels like Pride and Prejudice the greatest love of all her literature ,arise form Love is the greatest audacious dare choosing. And maintain it in real life. As long as death.

ช่วงปี 1975 สังคมยังเต็มไปด้วยชนชั้นและความกดดันทางเศรษฐกิจ Jane Austen หญิงสาววัย 20 ที่ชอบที่จะสร้างผลงานเขียนของเธอ ถูกกดดันจากครอบครัว โดยเฉพาะแม่ ให้แต่งานกับหลานชายของเศรษฐีนีคนหนึ่งชื่อ วิสเลย์ (Wisley) ซึ่งเป็นคนที่ไม่ช่างเจรจา พูดไม่เก่ง ในขณะที่เจน ได้พบกับเพื่อนของพี่ชายเธอ ทอม เลอฟอย (Tom Lefroy) หลานชายของผู้พิพากษาในลอนดอน ซึ่งเขาเอาทอมมาอุปการะ เพราะแม่ของทอมเลือกที่จะแต่งงานกับพ่อของเขาที่ไม่มีอันจะกิน และมีพี่น้องมากมาย ทอมต้องพึ่งเงินของลุงในการดำรงชีวิตและส่งเสียให้กับน้องที่ชนบท

เจนและทอม เปิดใจให้กับกันเพราะงานเขียนของวิสเลย์และทอมเป็นนักศึกษากฏหมายที่ปราดเปรื่อง มีศิลปะในการเข้าใจความคิด แต่เมื่อตัดสินใจที่จะเลือก "ความรัก" และจะใช้ชีวิตคู่กัน ทั้งคู่กับถูกสังคมและคนรอบข้างกดดัน จนสุดท้ายวิสเลย์เลือกที่จะปล่อยทอมไป เพราะทอมมีความรับผิดชอบต่อน้องๆ ที่บ้าน ซึ่งตอนแรกเจนไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน และคิดว่าถ้าไปกับทอม ชีวิตของทั้งคู่จะไม่มีความสุขเลย

ต่อมา ทอมกลายเป็นผู้พิพากษาคนสำคัญในอังกฤษ และเจน กลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงมาก

นี่เป็นชีวประวัติ จากเรื่องจริง ของผู้หญิงชื่อ เจน อัสเตน ผู้เขียนนวนิยายอมตะอย่าง Pride and Prejudice ที่ความรักที่ยิ่งใหญ่ทั้งมวลในวรรณกรรมของเธอ คือความรักที่ย่ิงใหญ่ที่เธอหาญกล้าเลือก และรักษามันไว้ในชีวิตจริง ตราบจนเสียชีวิต

ชื่อไทย รักที่ปรารถนา

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก

สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก ( Sing Lek Lek Tee Liak Wa Rak) or english name "First Love"
story about first love impression that able to drive you to dare to change yourself. Nam(Baifren) fall in love with older school boy, Chon (Mario Maoler). Nam was ugly , black and not clever girl as start of story. but she try to change herself to attract Chon. by more learning. and use thai herb scrape her skin for whiten.
until 3 years both finished school but never confess their feeling.
final day before high school end. Nam tell her inside sentimental to Chon , however she has to leave country to stay aboard with father.
Chon who never dare to honest his heart and keep everything inner. feel happy when Nam said... how ever he no more chance to saying.
2010 Thai Movie

My Boy Jack

เรื่องราวของเด็กหนุ่ม Jack (Daniel Redcliff) ที่อยากไปรับใช้ประเทศอังกฤษ ในช่วงสงครามโลก โดยที่พ่อของเขาให้การสนับสนุน ทั้งที่ลูกตัวเองสายตาสั้นมาก และไม่ผ่านการคัดเลือกหลายครั้ง แม่ และน้องสาวต่างก็คัดค้าน แต่พ่อของแจ๊คพยายามใช้เส้นสายฝากเข้าทำงานเป็นทหารได้สำเร็จ
แจ๊ก กลายเป็นทหารหนุ่มที่มีความสามารถ เขายิงปืนได้แม่นยำ และไม่นานก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้ฝึกทหารใหม่

แต่สุดท้ายแจ๊คเสียชีวิตในสนามรบ ระหว่างการรบที่ Loos ตอนนั้นครอบครับยังยืนยันไม่ได้ว่าเขาตายหรือไม่ จนกระทั้งใช้การสัมภาษณ์คนที่อยู่ในเหตุการณ์ จนกระทั้งเจอทหารคนหนึ่ง ที่แจ๊คเคยช่วยทายารักษาโรคเท้าเปื่อยให้ เขาบอกว่าแว่นของแจ๊คหล่นขณะการรบ และเขาก็ตายอย่างสมเกียรติในสงคราม

Half Light

Half Light (2006) หนังฆาตกรรม บวกความหลอนเล็กๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นหนังรักอย่างไรอย่างนั้นเลย ปกติไม่ค่อยชอบหนังสยองเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อหาภาพยนต์ดูไม่ได้ ก็เลยหยิบมาลองดู
ราเชล นักเขียนที่ประสบความสำเร็จ เธอเสียลูกไปเพราะจมน้ำที่ท่าน้ำหลังบ้าน เพราะลูกชวนเธอไปเล่น แต่เธอเอาแต่เขียนหนังสือ
เมื่อเสียลูกไปเธอจึงเดินทางมาหาที่พักทางใจบนเกาะแห่งหนึ่ง โดยเช่าบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับประภาคาร ตั้งอยู่โดดเดียว ในทะเลแถบสก๊อต
ที่ประภาคารเธอได้พบกับแองกัส ที่เฝ้าประภาคาร และทั้งคู่รักกัน โดยที่เธอไม่รู้ว่าแองกัส เป็นคนอื่นที่สวมรอยมาในชื่อของคนเฝ้าประภาคารเดิมที่เสียชีวิตไปแล้ว และแองกัสคนนี้คือคนทีี่สามีและเพื่อนของเธอ ชู้ของสามี ส่งมาเพื่อฆ่าเธอ โดยหวังเงินประกัน

Letters to Juliet

ชอบจังเลย กับเรื่องราวชีวิตที่เชื่อมั่นในรักแท้นะ
โซฟี หญิงที่บังเอิญได้ไปทำงานในสมาคมเลขาจูเรียต ซึ่ีงเป็นของเทศบาลเมือง คอยตอบจดหมายนักท่องเที่ยวหญิงสาวที่เขียนจดหมายถึงจูเรียต (จากโรมิโอ กับ จูเรียต) และมาติดไว้ที่หน้ากำแพงระเบีียงที่จูเรียตเคยยืน
โซฟีไปพบจดหมายเก่าฉบับหนึ่งถูกก้อนหินบนกำแพงทับไว้ เธอจึงตอบจดหมายนั้น ข้อความในจดหมายที่เธอเขียน นำเอาหญิงสาวเจ้าของจดหมายเมื่อ 50 ปีก่อนให้กลับมา บัดนี้เธอกลายเป็นคุณยาย แคร์
   50 ปีก่อนแคร์เคยรักชายชื่อโลเลนโซ บาโทลินิส แต่ด้วยความกลับของเธอในตอนนั้น และครอบครัวไม่เห็นด้วย เธอจึงจากเขาไป แคร์กลับมาพร้อมหลานชาย ชาลี ซึ่งไม่ค่อยเห็นด้วยกลับแคร์ที่จะมาหาคนที่ไม่เจอกันตั้งหลายสิบปีแล้ว ชาลี โกรธโซฟี ที่เขียนจดหมายไปหาย่าของเขา ทำให้เขาต้องมาที่ฝรั่งเศส
   ชาลีกลัวว่าย่าจะผิดหวังเพราะว่า 50 ปีมาแล้ว ไม่รู้จะต้องเดินทางหานานเท่าไหร่่ หรือว่าจะเจอขณะมีชีวิตหรือว่าตายไปแล้ว หรือว่าจะจำกันได้หรือไม่
   โซฟี กำลังจะพยายามเป็นนักเขียน มีแฟนที่กำลังจะเปิดร้านอาหาร แต่เขาเอาแต่หมกหมุ่นกับการเปิดร้าน โซฟี จึงตัดสินใจเดินทางไปพร้อมกับแคร์ ชาลี เพื่อตามหารโลเลนโซ ทั้งสามเดินทางไปหาคนชื่อ โลเลนโซ บาโทลินิส แต่ก็มีคนชื่อเดียวกันนี้ถึง 74 คน และการเดินทางเมื่อพบกับความผิดหวังหลายครั้ง ชาลีก็จะรู้สึกโมโหโซฟีมากขึ้นทุกครั้ง เพราะไม่อยากเห็นย่าต้องเสียใจ
   ครั้งสุดท้าย พวกเขาไปพบกับหลุมศพของชายชื่อ โลเลนโซ ... ชาลี จึงต่อว่า โซฟีอย่างหนัก ว่าเขาเตือนแล้วว่าอย่าให้ความหวังกับแคร์ เพราะคิดว่าโซฟี จะไม่เข้าใจกับการต้องสูญเสียคนที่รัก เหมือนอย่างที่แคร์ต้องเสียลูกชายไปซึ่งเป็นพ่อของชาลีขณะที่ชาลีอายุเพียง 9 ขวบ แต่ชาลีไม่รู้ว่าโซฟี เองถูกแม่ทิ้งไปเช่นกัน
   ย่าบอกว่าชาลี ยังรู้ว่าพ่อแม่รักเขาเสมอ แต่โซฟีไม่เหมือนกัน แม่ของเธอไม่รักเธอ
และระหว่างที่กำลังจะเดินทางกลับ พวกเขาแวะที่ไร่องุ่นชื่อโลเลนโซ ... ที่นี่ แคร์ได้พบกับโลเลนโซ รักแรกที่เธอตามหา
   ทั้งคู่จึงอยู่ด้วยกัน
   โซฟี กลับไปอิตาลี หนังสือของเธอที่เขียนเล่าชีวิตของแคร์ได้รับการตีพิมพ์จากสำนักพิมพ์นิวยอร์คเกอร์ แฟนของเธอก็เปิดร้านอาหารแล้ว ชีวิตกำลังจะไปได้สวย เพียงแต่โซฟีรู้แล้วว่าตัวเองรักใคร เมื่อได้รับจดหมายเชิญจากแคร์ ไปงานแต่งงานกับโลเลนโซ เธอจึงบอกเลิกกับแฟน และตั้งใจจะไปหาชาลี แต่ดันไปเจอชาลี กับคนที่เธอคิดว่าเป็นแฟนใหม่ชาลี
   แคร์อ่านจดหมายที่โซฟีเคยเขียนหาเธอ เพื่อแสดงความขอบคุณในงานแต่งงาน จดหมายที่ทำให้แคร์กลับมาหาความรักของตัวเอง

โซฟี่ได้ฟังจึงน้ำตาไหล และวิ่งออกจากงาน ชาลี ตามเธอไป เพื่อบอกความจริงว่าเขารักเธอ และเธอเข้าใจผิด

Chole

เป็นหนังเอาใจเลสเบี้ยนหรือป่าว ไม่รู้ มีฉากรักที่หวือหวา ระหว่างนางเอกสาว กับนางเอกวัยคุณแม่
เมื่อหมอหญิงคนหนึ่งเกิดอาการหึงหวงสามีตัวเอง จนไปพบกับโคลี ผู้หญิงที่เธอคิดว่าสามีเธอนอนด้วย
โคลีเหมือนจะจับจุดถูก และพยายามทำให้เธอคิดว่าสามีเธอนอกใจ จนสุดท้ายคุณหมอก็ประชดด้วยการมี
อะไรกับโคลีเสียเอง
หนักแปลกดี แต่ว่าไม่ค่อยสนุก